วันอังคารที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2553

ภาพร่วมของการดูแลรักษาเข่าเสื่อม


ภาพร่วมของการดูแลรักษาเข่าเสื่อม

สวัสดีคะเพื่อนๆจากข้อมูลที่ให้มาทั้งหมดเราคงพอจะทราบกันแล้วว่า
โรคเข่าเสื่อมเป็นโรคที่มีการดำเนินไปช้าๆ อาจใช้เวลาจากเริ่มต้นมีอาการจนถึงข้อเสื่อมเต็มที่นานถึง10ปี โโยทั่ไปคุณอาจมีอาการของข้อเข่าเสื่อมประมาณ
40-50 ปี คุณอาจจะปวดเข่าไม่มากระยะแรก เมื่อพักการใช้งานข้อเข่า หรือรับประทานยาแก้ปวดเพียงไม่กี่วันก็หายดีจนเหมือนปกติ แต่โรคข้อเข่าเสื่อมก็ยังดำเนินอยู่ ในระหว่างนี้คุณก็ควรปฎิบัติตัวให้ถูกต้อง เพื่อชะลอการดำเนินไปของโรคให้ช้าที่สุด ได้แก่ การลดน้ำหนังหรือระวังไม่ให้น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น การหลีกเลี่ยงท่านั่งยองๆ คุกเข่าขัดสมาธิ หรือเดินขึ้นลงบันไดบ่อยๆ ใช้ไม้เท้าหรือลมช่วยเดินถ้ามีอาการปวดมาก รวมถึงรับประทานยาที่แพทย์จ่ายให้เป็นครั้งคราว
นอกจากนี้ไม่ควรลืมที่ออกกำลังกายบริหารกล้ามเนื้อต้นขาเป็นประจำ และพบแพทย์เมื่อมีอาการปวดมากเกินปกติ

คุณต้องพยายามทำความเข้าใจถึงธรรมชาติการดำเนินไปของโรค นี้ให้ได้ เมื่อเวลาผ่านไปอายุของคุณมากขึ้น คุณอาจมีอาการปวดเข่ารุนแรงมากขึ้น
บ่อยขึ้น ถ้าในระยะเริ่มแรกของโรคเข่าเสื่อม คุณไม่สามารถปฎิบัติตัวได้ตามที่แพทย์แนะนำ คุณก็จะถูกจัดอยู่ในกลุ่มของผู้ป่วยที่มีความรุนแรงของข้อเข่า
เสื่อมมากๆมีอาการปวดรุนแรงจนไม่สามารถเดินได้ หรือปวดแม้กระทั้งอยู่เฉยๆ
จนถึงแกนขาผิดรูปไปมาก แล้วสุดท้ายจะต้องลงเอยด้วยการรกษาแบบผ่าตัด
ซึ่งคนในกลุ่มนี้จะไม่มากแค่ประมาณ10เปอร์เซ็นต์ของคนไข้โรคเข่าเสื่อมเท่านั้น แต่อย่างไรก็ตามหากจะต้องผ่าตัดด้วยวิทยาการในการผ่าตัดในปัจจุบันพัฒนาไปมากและผลการรักษาก็ถือว่าจัดอยู่ในเกณฑ์ที่ดีที่เดียว

หากใครที่ต้องผ่าตัดก็ไม่ต้องกังวลนะคะ
และคนที่เพิ่งมีสัญญานวที่เพิ่งจะเริ่มเป็นก็ควรรีบดูแลแต่เนิ่นๆตอนที่อาการยังน้อยอยู่จะเป็นการดีที่สุดคะ

ขอบคุณข้อมูลดีๆจากคุณหมอสาธิต เที่ยงวิทยาพร 

ท่ากายบริหารสำหรับผุ้ที่เป็นเข่าเสื่อม


ท่ากายบริหารสำหรับผุ้ที่เป็นเข่าเสื่อม

สวัสดีคะพบกันอีกครั้งนะคะสำหรับบทความนี้
จะเป็นเรื่องเกี่ยวกันท่ากายบริหารหลังจากที่บทที่แล้วเราได้ทราบถึงข้อดี
ของการออกกายบริหารกันไปแล้ว

วันนี้เรามาดูท่ากายบริหารสำหรับผู้ที่เป็นเข่าเสื่อม ลองนำไปทำกันดูนะคะ
นอกจากทานยา ควบคุมน้ำหนักแล้วเราก็สามารถทำกายบริหารช่วยด้วย
เรียกได้ว่าดูแลครบสูตรคะ

เนื่องจากว่ากล้ามเนื้อต้นขาของผู้ที่เป็นเข่าเสื่อมจะมีความแข็งแรงลดลงอย่างมากดังนั้นการบริหารกล้ามเนื้อต้นขาจึงเป็นเรื่องที่จำเป็นอย่างยิ่งและควรทำเป็น
ประจำสม่ำเสมอ โดยสามารถเลือกทำได้หลายวิธีดังนี้

ท่าที่1 นั่งหลังตรงบนเก้าอี้แนะนำว่าควรจะเป็นเก้าอี้ที่มีพนักเพราะป้องกันไม่ให้หงายหลังและตกเก้าอี้ โดยให้เหยียดเข่าเกร็งข้างไว้ 10 วินาที แล้วงอเข่าเหมือนเดิม ทำซ้ำวันล 100-200 รอบ ทำเป็นประจำทุกวันๆต่อเนื่องกัน เพื่อเสริม
ความแข่งแรงของกล้ามเนื้อต้นขาด้านหน้า ท่านี้สามารถทำได้แม้ในขณะที่นั่งทำงาน

ท่าที่2 นอนเหยียดเข่าเกร็งค้างไว้10 วินาที แล้ววางลงทำซ้ำวันละ100200รอบ

ท่าที่3 การเคลื่อนไหวในสระน้ำหรือการว่ายน้ำเบาๆ จะช่วยให้ร่างกายกระชับกระเฉงและข้อเข่ามีการเคลื่อนไหว ที่สำคัญจะไม่มีแรงกระแทกที่ข้อเข่าจึงทำให้ไม่มีอาการปวด

ฝากเรื่องส่งท้าย.การออกกายบริหารที่พอเหมาะไม่มากหรือไม่น้อยจนเกินไป สังเกตได้จาก 
มีความรู้สึกตึงบริเวณต้นขาหลังจากที่ออกกายบริหารเสร็จ 
ไม่มีอาการปวดเพิ่มขึ้น



 

การรักษาผ่าตัดข้อเข่าเสื่อมเป็นอย่างไร


การรักษาผ่าตัดข้อเข่าเสื่อมเป็นอย่างไร

แพทย์จะเลือกการผ่าตัดรักษาโรคข้อเข่าเสื่อม
เมื่อการรักษาแบบประคับประคองแบบการใช้ยาและการทำกายภาพไม่ได้ผล
คนไข้ยังมีอาการปวดมากจนไม่สามารถเดินได้เป็นปกติ
หรือมีอาการปวดแม้อยู่ในท่านั่งหรือนอนต้องพึ่งยาแก้ปวดตลอดเวลา
ซึ่งไม่เป็นผลดีกับคนไข้ในระยะยาว โดยสวนมากคือคนไข้ที่มีความรุนแรงของโรคมากแล้ว เช่น แขนขาที่ผิดไปหรือมีการโกงหรือบิดของข้อเข่า

การผ่าตัดเพื่อรักษาข้อเข่าเสื่อมแบ่งได้เป็น3วิธีหลักดังนี้

1. การผ่าตัดด้วยวิธีส่องกล้องเพื่อล้างข้อ
2. การผ่าตัดด้วยวิธีแนวแกนขา
3. การผ่าตัดด้วยวิธีเปลี่ยนผิวข้อเข่าเทียม

การที่แพทย์จะเลือกใช้วิธีไหนนั้น ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมกับคนไข้แต่ละราย
ติดตามตอนต่อไปได้นะคะ

ขอบคุณข้อมูลดีๆจากคุณหมอ สาธิต เที่ยงวิทยาพร